*** เต็มแล้ว – SOLD OUT ***
ไปวิ่งมาราธอนฤดูร้อนที่ไอซ์แลนด์ ดินแดนน้ำแข็ง
เดินทางวันที่ 14 – 22 สิงหาคม 2565
ไอซ์แลนด์เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีธรรมชาติสวยงาม ภูมิประเทศที่แปลกตา เที่ยวได้ตลอดปีในรูปแบบที่แตกต่างกันไป เดือนสิงหาคมเป็นช่วงปลายฤดูร้อน อุณหภูมิประมาณ 8-15 องศาเซลเซียส เป็นเวลาที่ดีมากๆ สำหรับการท่องเที่ยว วิ่งรอบโลกอยากพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวด้วยกัน ไปวิ่ง Reykjavíkur Maraþon Íslandsbanka (Reykjavík Marathon) ด้วยกัน (มีหลายระยะ 42 km/21 km/10 km/3 km/600 m) เส้นทางวิ่งค่อนข้างเรียบ และเป็นสนามมาตรฐาน AIMS (สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากทำเวลา) หรือสำหรับเด็กๆ และครอบครัวจะเดินๆ วิ่งๆ กันแบบสนุกสนานในระยะ 3 km หรือ 600 m ก็ได้
จุด start และ finish อยู่บริเวณใจกลางเมือง Reykjavík ซึ่งจะมีชาวเมืองมาส่งเสียงเชียร์กันอย่างสนุกสนาน จากนั้นจะเป็นทางเลียบริมทะเลซึ่งนอกจากเราจะได้เห็นวิวของมหาสมุทรแอตแลนติกแล้ว ยังเห็นวิวของเทือกเขาที่โอบล้อมเมือง Reykjavík ไว้ ได้แก่ Esjan และ Snæfellsjökull… เพื่อนๆ ที่เลือกวิ่งระยะ 42 km จะได้วิ่งผ่านหุบเขา Elliðaárdal ที่เป็นแหล่งตกปลาแซลมอน มีน้ำตก และป่าอันสวยงาม ก่อนที่จะผ่านบ้านประวัติศาสตร์ Höfdi House เข้ามาจบพร้อมกันในบริเวณไม่ไกลจาก Reykjavík City Hall
ตามสไตล์แบบวิ่งรอบโลก เราไม่ได้ไปวิ่งอย่างเดียว เราเน้นเที่ยวด้วย ซึ่งแอดมินก็ได้พยายามคัดเลือกไฮไลท์สำคัญเกือบทั้งหมดให้ฟิตลงในระยะเวลาทริปที่เรามี อย่างเหมาะสมตามรายด้านล่างนี้ แต่ก็เพื่อไม่ให้เป็นการสบายเกินไป ในบางวัน เราอาจจะมีพาเพื่อนๆ วิ่งวอร์มยามเช้าสนุกๆ ในบางวัน หากเวลาแสะสถานที่เอื้ออำนวย
ไม่ได้วิ่งอย่างเดียว เพราะเรื่องเที่ยวก็เรื่องใหญ่
Bangkok - Helsinki
วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2565
19:00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 โซนผู้โดยสารขาออก ประตู 9 แถว T เคาท์เตอร์ สายการบินฟินแอร์ Finnair (AY) จะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการในการเช็คอินสัมภาระ
21:30 น. ออกเดินทางสู่กรุงเฮลซิงกิ โดยสายการบินฟินแอร์ Finnair เที่ยวบิน AY 144 (ใช้เวลาเดินทาง 12:20 ชั่วโมง)
Helsinki - Reykjavík - Kirkjufell - Reykholt
วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม 2565
05:50 น. (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) ถึงสนามบินกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ พาเพื่อนๆ ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และรอการเปลี่ยนเที่ยวบิน
07:45 น. ออกเดินทางสู่กรุงเรคยาวิก โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 991 (ใช้เวลาเดินทาง 3:50 ชั่วโมง)
08:35 น. (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศฟินแลนด์ 3 ชั่วโมง หรือช้ากว่าประเทศไทย 7 ชั่วโมง) ถึงสนามบินเคฟลาวิค (Keflavík) กรุงเรคยาวิค (Reykjavík) ประเทศไอซ์แลนด์
พาเพื่อนๆ เดินทางสู่ ภูเขาเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3:30 ชั่วโมง) โดยใช้เส้นทางมุ่งหน้าไปทางตะวันตกของประเทศ ผ่านเมืองกรุนดาร์ฟยอร์เดอร์ (Grundarfjörður) เป็นเมืองเล็กๆ ทางตะวันตกของประเทศไอซ์แลนด์ เราสามารถมองเห็นภูเขาเคิร์กจูเฟลได้จากเมืองได้ด้วย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ พาไปชม ภูเขาเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell) เรียกเป็นภาษาอังกฤษคือ Church Mountain หรือ “ภูเขาโบสถ์” สาเหตุคือรูปร่างของภูเขาซึ่งคล้ายคลึงกับโบสถ์ บ้างก็ว่าคล้ายหมวกของแม่มด หากมองใกล้ๆ จะเห็นว่าตัวภูเขาจะมีลักษณะเป็นชั้นๆ ต่างสีกัน ชั้นล่างสุดจะเป็นฟอสซิล ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดตั้งแต่ยุคน้ำแข็งเป็นล้านปีมาแล้ว ส่วนชั้นบนซึ่งเป็นหินลาวา เกิดในช่วงที่ยุคน้ำแข็งเริ่มอุ่นขึ้นและมีอายุหินน้อยกว่าชั้นล่าง
เคิร์กจูเฟลเป็นภูเขาสูง 463 เมตร ตั้งอยู่เพียงหนึ่งเดียว เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุด ถือเป็นมุมมหาชนของประเทศไอซ์แลนด์… ใกล้ๆ กันมี น้ำตกเคิร์กจูเฟลฟอส (Kirkjufellsfoss) นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะถ่ายภาพสวยๆ ของน้ำตกที่มีฉากหลังเป็นภูเขา ก็นับเป็นมุมบังคับอีกมุมหนึ่ง ยอดเขาทางด้านทิศใต้จะชันน้อยกว่าทางด้านทิศเหนือ ถ้ามองจากทางด้านทิศตะวันตกจะไม่เห็นเป็นยอดแหลมๆ เหมือนตอนที่มองจากทางด้านทิศใต้ แต่จะเห็นเป็นลักษณะหัวตัด เคิร์กจูเฟล เป็นสถานที่ที่มีความงดงามตลอดทั้งปีไม่ว่าจะเดินทางมาเที่ยวในช่วงไหน โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่จะมองเห็น “ภูเขาหมวกแม่มด” แห่งนี้ปกคลุมไปด้วยหิมะเป็นสีขาวโพลน ภูเขาแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ดังเรื่อง Game of Thrones อีกด้วยนะ เผื่อใครอยากจะมาตามรอย… นอกจากนี้ นักปีนเขาที่มีประสบการณ์นิยมมาปืนขึ้นไปชมความงามบนยอดเขา แต่เราจะไม่ปีนกันนะครับ เราเก็บขาของพวกเราไว้วิ่งมาราธอน
เดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองเรย์คอล์ท (Reykholt) (ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.)
พาเพื่อนๆ ไปชม บ่อน้ำพุร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ (Deildartunguhver Thermal Spring) ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ อุณหภูมิน้ำร้อนสูงสุดถึง 100 องศาเซลเซียส มีอัตราการพุ่งแรงที่สุดในยุโรป มีความแรงถึง 180 ลิตร/วินาที มีการต่อท่อจากน้ำพุร้อนที่นี่ไปใช้ในเมือง Borgarnes และเมือง Akranes ซึ่งมีการวางท่อน้ำยาวถึง 64 กม. ถือว่ายาวที่สุดในไอซ์แลนด์
ที่พัก Hotel Homar หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารท้องถิ่นในโรงแรม
Reykholt - Þingvellir National Park
วันอังคารที่ 16 สิงหาคม 2565
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
เดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (Þingvellir National Park) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1:30 ชั่วโมง) เป็นอุทยานแห่งชาติของไอซ์แลนด์แห่งแรก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1928 เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ตามประกาศขององค์การยูเนสโก้ (UNESCO) ในปี ค.ศ.2004 นอกจาก Þingvellir จะมีรอยแตกแยกของแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก (The Mid-Atlantic Rift) แล้ว ยังมีภูเขา ทุ่งลาวา หุบผา ถ้ำลำธาร น้ำตก และทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอีกด้วย รอยแตกของเปลือกโลกเหล่านี้มีความกว้างขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี เพราะมีการเคลื่อนตัวแยกออกจากกันอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เราจะเดินผ่านรอยแบ่งระหว่างทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ พร้อมชมร่องรอยของที่ประชุมรัฐสภาอันเก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ.930
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย ไปชม น้ำพุร้อนเกเซอร์ (The Great Geysir) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ มีความร้อนประมาณ 400 องศาเซลเซียส พุ่งขึ้นสูง 43-54 เมตร ซึ่งเคยพุ่งสูงสุดถึง 170 เมตรในปี ค.ศ.1896 แต่ความถี่ในการพุ่ง แต่ละครั้งไม่สม่ำเสมอ ล่าสุดพุ่งขึ้นแค่ 3-4 ครั้งต่อวันเท่านั้น ในขณะที่ น้ำพุร้อนสโตรกเกอร์ (Strokkur) ซึ่งได้อีกชื่อว่า Little Geysir อยู่ห่างกันเพียง 50 เมตร ที่พุ่งขึ้นทุก 5 นาทีด้วยความสูงประมาณ 30 เมตร ภาพของสโตรกเกอร์ที่ปรากฏมากกว่าทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่า น้ำพุสโตรกเกอร์ คือ น้ำพุเกเซอร์
นำชม น้ำตกกูลฟอสส์ (Gullfoss) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที) ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์ อาจจะกล่าวได้ว่าสวยงามกว่าน้ำตกไนแอการ่าด้วยซ้ำ เป็นหนึ่งใน 3 สถานที่ท่องเที่ยวของไอซ์แลนด์ที่อยู่ใน “วงกลมทองคำ” (Golden Circle) ที่ผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ไม่ควรพลาด น้ำตกนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สามชั้นลดหลั่นลงไปในรอยแยกของผิวโลก รอยแยกกว้าง 20 เมตรและยาวถึง 2.5 กิโลเมตร มองในระยะไกลดูเหมือนน้ำทั้งหมดจะตกหายลงไปเบื้องล่าง ความหมายของชื่อน้ำตก Gullfoss แปลว่า น้ำตกทองคำ เนื่องจากเวลาละอองน้ำปะทะกับแสงแดดแล้วจะสะท้อนแวววาวออกมาเป็นสีทองอร่าม และปรากฏเป็นรุ้งกินน้ำให้พบเห็นแก่ผู้มาท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นภาพที่อลังการสวยงามสมคำเล่าลือ
เดินทางสู่ เมืองเซลฟอสส์ (Selfoss) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารท้องถิ่นในโรงแรม
ที่พัก Selfoss Hotel หรือเทียบเท่า
Selfoss - Vík
วันพุธที่ 17 สิงหาคม 2565
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
เดินทางไปชมความสวยงามของ น้ำตกเซลจาลันต์ฟอสส์ (Seljalandsfoss Falls) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ มีความสูงประมาณ 60 เมตร (200 ฟุต) เราจะตื่นตาตื่นใจกับสายน้ำขนาดใหญ่ที่ไหลลงสู่พื้นราบ ตัดกับสีเขียวของมอสที่ปกคลุมโขดหินทั้งสองฝั่ง สามารถเดินทะลุม่านน้ำตกไปด้านหลังได้ เสมือนกับการไปอยู่หลังม่านของเวทีละคร ถ้าใครต้องการภาพในมุมที่แตกต่าง แนะนำให้เตรียมเสื้อกันฝนและอุปกรณ์กันน้ำสำหรับกล้องถ่ายรูปไปด้วย จากนั้นแวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ น้ำตกสโคการ์ฟอสส์ (Skogafoss) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) มีความสูงถึง 62 เมตรเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดทางภาคใต้ และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไอซ์แลนด์ ความใหญ่โตของน้ำตกนี้ ทําให้ต้องยืนห่างพอสมควร เพื่อจะได้เห็นน้ำตกได้ทั้งหมด ด้วยความที่เปลือกโลกส่วนนี้มีอายุน้อยทําให้การยุบตัวของพื้นดินแห่งนี้มีให้เห็นได้อย่างชัดเจน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย เดินทางสู่ เมียร์ดาลส์โจกูล (Myrdalsjokull) เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์การท่องเที่ยวบนธารน้ำแข็งด้วยการขับรถสโนว์โมบิล ตะลุยไปในทุ่งธารน้ำแข็ง Mýrdalsjökull Glacier บนดินแดนที่อยู่สูงที่สุดของโลก มีพื้นที่กว่า 596 ตร.กม. ความกว้างใหญ่เป็นอันดับ 4 ตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งอย่างเต็มอิ่มตลอด 1 ชั่วโมง
(คันละ 2 ท่าน พร้อมชุดอุปกรณ์กันหนาว)
เดินทางสู่ หมู่บ้านวิค (Vík) (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) หมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ เป็นหมู่บ้านที่มีฝนตกมากที่สุดในไอซ์แลนด์ ชายหาดของเมืองนี้เคยได้รับการเสนอชื่อในการจัดอันดับชายหาดที่สวยที่สุดในโลกเมื่อปี ค.ศ.1991 แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ชายหาดที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นสถานที่น่ามหัศจรรย์ที่น่าไปชมเป็นอย่างยิ่ง
ที่พัก Klaustur Hotel หรือเทียบเท่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารท้องถิ่นในโรงแรม
Vík - Reykjavík
วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม 2565
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
พาชมความสวยงามที่แปลกตาของ หาดทรายสีดำ Reynisfjara อันมีเทือกเขาที่เกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวา และแนวหินบะซอลต์เรียงรายตามพื้นทรายขึ้นไปเป็นภูเขา แท่งหินบะซอลต์เกิดจากการเย็นตัวของลาวาอย่างรวดเร็วบนพื้นผิวโลก เมื่อทำปฎิกิริยากับความเย็นของน้ำในมหาสมุทร เย็นตัวไม่พร้อมกัน หินจึงมีลักษณะแตกต่างกันออกไป อันนี้ต้องแจ้งให้ทราบไว้ล่วงหน้าก่อนว่าเราไม่สามารถเล่นน้ำตรงนี้ได้เพราะคลื่นอันตรายมากๆ เราแค่ไปชมบรรยากาศและถ่ายรูปสวยๆ พอ เพราะตรงนี้ก็เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังหลายเรื่อง เช่น Game of Thrones และ Star Wars เป็นต้น
ชม หน้าผา The Cliff Dyrholaey (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) ซึ่งเป็นหน้าผาหินบะซอลต์ที่มีความสูง กว่า 120 เมตร ที่เกิดจากการกระทำของลมและน้ำทะเล เกิดเป็นช่องทะลุแหลมออกไปสันนิษฐานว่า เกิดจากการระเบิดภูเขาน้ำแข็งใต้ทะเลในยุคน้ำแข็ง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย ออกเดินทางกลับสู่กรุงเรคยาวิค (ใช้เวลาประมาณ 2:30 ชั่วโมง)
นำชมโบสถ์ประจำเมือง โบสถ์ฮัลล์กรีมสเคิร์คยา (Hallgrímskirkja) มีความสูงถึง 74.5 เมตร สูงเป็นอันดับ 4 ในประเทศไอซ์แลนด์รองจากสถานีวิทยุ 2 แห่งและอาคารสเมาราท็อก (Smáratorg) ตึกสูงที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ สูง 77.6 เมตร มี 20 ชั้น ความสูงพอๆ กับภูเขาทองบ้านเรา สร้างในปี ค.ศ.1945-1986 (ใช้เวลาก่อสร้างนาน 38 ปี) ตามแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ คล้ายกับโบสถ์ Grundtvig’s Church ที่โคเปเฮเกน เดนมาร์กโบสถ์แห่งนี้ตั้งชื่อตามพระในศาสนาคริสต์ที่ชื่อฮาลล์กริมูร์ (Hallgrímur Pétursson) ที่เป็นทั้งนักกวี นักประพันธ์ ผลงานที่มีชื่อและเป็นที่รู้จักกันอย่างดีของชาวไอซ์แลนด์ คือ Passion Hymns ที่ถูกนำดัดแปลงเป็นบทเพลง บทสวดในวิถีชีวิตทางศาสนาของชาวไอซ์แลนด์ ฮาลล์กริมูร์มีอายุอยู่ระหว่าง พ.ศ.2157-2217 ถ้านับช่วงเวลาของไทยก็ต้องบอกว่าเป็นบุคคลร่วมสมัยกับสมเด็จพระนารายมหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ.2199-2231) โบสถ์มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า Hallgrímskirkja ที่แปลได้ความว่า “โบสถ์ของฮาลล์กริมูร์” ด้านหน้าของโบสถ์มีอนุสาวรีย์ของเลฟร์ อีริกสัน (Leifr Eiriksson) เป็นชาวนอสร์ ชาติยุโรปคนแรกที่ไปถึงดินแดนแถบอเมริกาเหนือรวมถึงกรีนแลนด์ด้วย โดยสหรัฐอเมริกามอบรูปปั้นนี้ให้แก่ไอซ์แลนด์เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 1,000 ปีรัฐสภาของไอซ์แลนด์
ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ณ ถนน Laugavegur ถนนช้อปปิ้งสายหลักของกรุงเรคยาวิก
ที่พัก Reykjavík Lights หรือเทียบเท่า (พัก 3 คืน)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารจีน
Reykjavík
วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2565
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
ล่องเรือชมวาฬแบบธรรมชาติ ซึ่งวาฬที่อาศัยอยู่ในทะเลแถบแอตแลนติกนี้จะมี 3 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ วาฬมิงคี (Minke), วาฬหลังค่อม (Humpback) และวาฬเพชรฆาต (Killer Whale) การล่องเรือชมวาฬใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง บนเรือมีชุดกันหนาวเพิ่มเติมบริการให้ (หากมีเหตุให้ทางบริษัทฯ เดินเรือยกเลิกให้บริการอันเนื่องมาจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ทาง LET’S RUN THE WORLD เปลี่ยนเป็นสถานที่และกิจกรรมอื่นทดแทนตามความเหมาะสม)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย พาทุกท่านไปรับเบอร์วิ่งประจำตัวที่ Laugardalshöll Sports Hall พร้อมชมกิจกรรมต่างๆ ของสปอนเซอร์ในงาน อาทิเช่น Adidas, Garmin, 66°North etc.
ที่พัก Reykjavík Lights หรือเทียบเท่า เป็นคืนที่ 2 พักผ่อนตามอัธยาศัย เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมงานวิ่งในวันรุ่งขึ้น…
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารจีน
Reykjavík Marathon – Blue Lagoon
วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2565
เช้า รับชุดอาหารเช้าแบบกล่องจากโรงแรม
07:00 น. นำออกเดินทางโดยรถโค้ชสู่จุดปล่อยตัววิ่งของงาน Reykjavík Marathon 2022
ณ Reykjavík City Hall
โดยจะมีกำหนดการในการเริ่มวิ่งตามระยะทางที่แตกต่างกัน ดังนี้
8:30 น. | Marathon – 42 กิโลเมตร |
8:45 น. | Half Marathon – 21 กิโลเมตร |
9:40 น. | 10K – 10 กิโลเมตร |
12:00 น. | Fun Run – 3 กิโลเมตร |
คาดว่าจะพร้อมกันหลังวิ่งที่จุดนัดพบไม่เกิน 14:30 น. ถ่ายรูปรวม และรีบพาทุกคนกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่โรงแรม
นำเดินทางสู่บลูลากูน (Blue Lagoon) (ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) แหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงโด่งดังของไอซ์แลนด์ เป็นเขตที่มีการเคลื่อนตัวของหินหลอมละลายใต้ดินมากที่สุดในโลกเขตหนึ่ง การเคลื่อนตัวนี้ทำให้น้ำในบ่อร้อนขึ้นและมีไอน้ำระเหยขึ้นมา บลูลากูนเกิดขึ้นในปีค.ศ.1976 เมื่อมีการก่อตั้งโรงไฟฟ้าจากพลังงานใต้พิภพ ซึ่งในกระบวนการได้นำเอาแร่ธาตุบางอย่างขึ้นมาด้วย ชาวบ้านละแวกนั้นได้ลงอาบน้ำในบ่อน้ำร้อน และได้พบว่าผิวพรรณดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นมา บลูลากูนก็ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นสถานที่อาบน้ำแร่ขนาดใหญ่ และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก เป็นบ่อน้ำร้อนที่มีแร่ธาตุต่างๆ มากมาย ซึ่งช่วยรักษาผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง
สำหรับอุณหภูมิของน้ำบริเวณสระอาบน้ำและสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุหลายชนิด เช่น ซิลิคอน กำมะถัน การแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนบลูลากูน สามารถช่วยรักษาโรคผิวหนังได้หลายชนิด
เราแช่ตัวในสระธรรมชาติ เพื่อเป็นการผ่อนคลายให้หายเหนื่อยจากการวิ่ง (มีบริการผ้าเช็ดตัว และชุดว่ายน้ำให้เช่า ในอัตราชุดละประมาณ 8-10 ยูโร สำหรับท่านที่ไม่ได้เตรียมมาเอง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก Reykjavík Lights หรือเทียบเท่า เป็นคืนที่ 3
Reykjavík - Helsinki
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2565
เช้า อาหารเช้าแบบกล่อง
นำเดินทางสู่สนามบินเคฟลาวิค (Keflavik) กรุงเรคยาวิค
09:25 น. ออกเดินทางสู่กรุงเฮลซิงกิ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 992 (ใช้เวลาบิน 3:25 ชั่วโมง)
15:50 น. ถึงสนามบินกรุงเฮลซิงกิประเทศฟินแลนด์ (ตามเวลาท้องถิ่น) รอการเปลี่ยนเที่ยวบิน
Helsinki - Bangkok
วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2565
00:45 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 143 (ใช้เวลาบิน 11:40 ชั่วโมง)
16:25 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
หมายเหตุ :
โปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศและเหตุสุดวิสัยต่างๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า โดยทางบริษัทฯ จะคํานึงถึงผลประโยชน์และความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสําคัญ
เงื่อนไขและข้อตกลงเพิ่มเติม
จากประกาศของรัฐบาลไอซ์แลนด์ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 มาตรการควบคุมเกี่ยวกับโควิด-19 ได้ถูกยกเลิกเป็นที่เรียบร้อย ผู้เดินทางสามารถเข้าประเทศไอซ์แลนด์ได้โดยไม่ต้องตรวจ ATK หรือ RT-PCR Test ประเทศไอซ์แลนด์ยินดีต้อนรับนักเดินทางจากทุกประเทศและทุกสถานะการรับวัคซีน
อัตราค่าบริการนี้รวม
- ตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด Economy Class ไป-กลับพร้อมคณะเดินทาง เส้นทางกรุงเทพฯ-เฮลซิงกิ-เคฟวาวิก-เฮลซิงกิ-กรุงเทพฯ
- ที่พักโรงแรมตามรายการระบุ
- อาหารตามรายการระบุ (สงวนสิทธิ์ในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามความเหมาะสม)
- ค่าบิบหมายเลขวิ่งในระยะ Marathon 42K สำหรับผู้ใหญ่ และ Fun Run 3K สำหรับเด็ก (มีราคาสำหรับ 42K, 21K, 10K, 3K, 600m ด้วย) หากต้องการวิ่งในระยะอื่นๆ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อปรับราคาลดลงตามราคาของแต่ละระยะได้ เราอยากให้ผู้ร่วมทริปทุกเพศทุกวัยได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสุขภาพนี้
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
- ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 25 กก./ใบ/คน กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (hand carry) 7 กก./ใบ/คน ทั้งนี้ หากสายการบินมีการแจ้งเปลี่ยนแปลงเรื่องน้ำหนักกระเป๋า การสะสมไมล์ หรือประกาศอื่นใดจากสายการบิน LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงตามประกาศดังกล่าว
- ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการพร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง (ตามกฎหมายยุโรป พนักงานขับรถสามารถขับรถได้สูงสุด 12 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น)
- ค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่ายุโรปหรือกลุ่ม Schengen และค่าธรรมเนียมวีซ่า ทางสถานทูตฯ จะไม่คืนค่าธรรมเนียมไม่ว่าจะผ่านการพิจารณาหรือไม่ก็ตาม
** กรณีมีวีซ่าแล้ว LET’S RUN THE WORLD จะคืนค่าธรรมเนียมวีซ่าให้ **
- ค่าไกด์ท้องถิ่นและหัวหน้าทริปนำเที่ยว
- ค่าทิปคนขับรถตลอดการเดินทาง
- ประกันอุบัติเหตุวงเงิน 3,000,000 บาท (เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
- ค่าตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR ที่ประเทศไอซ์แลนด์ 1 ครั้ง เพื่อใช้ผลตรวจในการเดินทางกลับประเทศไทย (ในกรณีที่มีการประกาศยกเลิกการใช้ผลตรวจโควิด-19 เพื่อเข้าประเทศไทย LET’S RUN THE WORLD จะคืนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้กับผู้เดินทาง)
- ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด (สงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
- ค่าทิปสำหรับไกด์ ตามพึงพอใจของผู้เดินทาง
- ค่าทำหนังสือเดินทางประเทศไทยและค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางต่างชาติ
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต มินิบาร์ ค่าซักรีด ค่าอาหารเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ และอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
- ค่าผกผันของภาษีน้ำมันที่สายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกระทันหัน
- ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน อุบัติภัยทางธรรมชาติ การประท้วง การจลาจล การนัดหยุดงาน การถูกปฏิเสธไม่ให้เข้า/ออกจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศ
- ค่า Test & Go ตามมาตรการของภาครัฐ
- ห้องพักแบบ 3 เตียง (Triple) มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีผู้เดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 คน LET’S RUN THE WORLD ขอแนะนำให้เปิดห้องพักเป็นแบบ 2 ห้อง (1 Twin + 1 Single) เนื่องจากบางโรงแรมอาจมี 1 เตียงใหญ่กับเตียงพับเสริม หรือไม่มีห้องพักแบบ 3 เตียงเลย โดยผู้เดินทางต้องชำระส่วนต่างของห้องพักเดี่ยวด้วยตนเอง
- การวางผังห้องพักของแต่ละโรงแรมมีความแตกต่างกัน อาจทำให้ห้องพักแบบเดี่ยว (Single) และห้องคู่ (Twin/Double) อยู่ไม่ติดกันหรืออยู่คนละชั้น
- โรงแรมในยุโรปที่มีลักษณะเป็น Traditional ห้องเดี่ยวอาจมีขนาดกะทัดรัดและไม่มีอ่างอาบน้ำ ขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละโรงแรมนั้นๆ และห้องพักแต่ละห้องอาจมีลักษณะแตกต่างกัน
- กรณีมีการจัดงานประชุมนานาชาติ trade fair เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้นมากและห้องพักในเมืองเต็ม LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อความเหมาะสม
- โรงแรมในยุโรปส่วนมากไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในภูมิภาคที่อุณหภูมิต่ำ จะมีบริการเครื่องปรับอากาศเฉพาะในฤดูร้อนเผู้เดินทางั้น
- บางสถานที่ในยุโรปอาจปิดวันอาทิตย์ หรืออาจมีการปิดปรับปรุงช่วงฤดูหนาว หากวันเดินทางตรงกับวันเหล่านี้ LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยวโดยแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าหากทราบเวลาที่แน่นอนก่อนการเดินทาง
- กรุณาจองท่องเที่ยวล่วงหน้าก่อนการเดินทาง พร้อมชำระมัดจำจำนวน 60,000 บาท และแนบสำเนาหนังสือเดินทาง สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ กรุณาชำระก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 60 วัน มิฉะนั้นจะถือว่ายกเลิกการเดินทาง
- เนื่องจากคณะเดินทางนี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากมีการสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆ หรือถูกปฏิเสธการเข้า/ออกประเทศไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ตาม LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าใช้จ่ายที่ชำระมาแล้วทุกกรณี
- หากคณะผู้ร่วมเดินทางมีจำนวนไม่ถึง 10 คน หรือผู้ร่วมเดินทางไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทางล่วงหน้า 10 วันและยินดีคืนค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดโดยหักค่าธรรมเนียมวีซ่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
- LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการบางประการเมื่อเกิดเหตุจำเป็นหรือเหตุสุดวิสัย และขอสงวนสิทธิ์ไม่ครอบคลุมความรับผิดชอบในกรณีสูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บ อันเกิดมาจากเหตุนอกเหนือความรับผิดชอบของ LET’S RUN THE WORLD และเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจล ฯลฯ
- ในกรณีที่ประเทศปลายทางเกิดเหตุจราจล สงคราม โรคระบาด เป็นผลทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ LET’S RUN THE WORLD จะดำเนินการคืนค่าใช้จ่ายให้เต็มจำนวนหลังหักค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถคืนได้ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่ามัดจำที่พักและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริง
กรณีที่ผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณายื่นขอวีซ่า และคณะสามารถออกเดินทางได้ ผู้เดินทางจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงดังต่อไปนี้
- ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าและค่าดำเนินการตามจริง ทางสถานทูตฯ จะไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา
- ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบินหรือค่าตั๋วเครื่องบินที่ออกมาจริง ณ วันยื่นวีซ่า หากมีการออกตั๋วเครื่องบินมาแล้วและไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า LET’S RUN THE WORLD จะต้องดำเนินการขอคืนค่าใช่จ่ายโดยหักค่าธรรมเนียมบางส่วน โดยจะชำระคืนภายใน 40-60 วัน (ตามกฎของแต่ละสายการบิน) หากยังไม่มีการออกตั๋วเครื่องบิน จะเป็นการเสียค่ามัดจำตั๋วเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
- ค่าห้องพักในทวีปยุโรป หากผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่าและไม่สามารถออกเดินทางร่วมกับผู้ร่วมเดินทางที่ผ่านการพิจารณาคนอื่นได้ ผู้เดินทางจะต้องถูกหักค่ามัดจำห้อง 2 คืนแรกของการเดินทางตามกฏหมาย หากไม่ปรากฏตัวตามวันที่เข้าพัก โรงแรมมีสิทธิ์ที่จะไม่ชำระค่ามัดจำห้อง 100% คืนในทันที โดย LET’S RUN THE WORLD จะมีเอกสารแจ้งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
- LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ผู้ร่วมเดินทางชำระมาแล้ว กรณีผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่าและขอยกเลิกการเดินทาง
- LET’S RUN THE WORLD ครอบคลุมการบริการตั้งแต่สนามบินสุวรรณภูมิในวันออกเดินทางจนถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันเดินทางกลับถึงประเทศไทยเผู้เดินทางเท่านั้น กรณีเดินทางมาจากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศและจะสำรองตั๋วเครื่องบินหรือยานพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน LET’S RUN THE WORLD จะไม่ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่อยู่นอกเหนือโปรแกรมการเดินทาง
- LET’S RUN THE WORLD จะทำการยื่นวีซ่าของผู้เดินทางก็ต่อเมื่อในคณะทีผู้สำรองที่นั่งครบ 10 คน และได้รับคิวการตอบรับจากทางสถานทูตฯ เนื่องจากต้องใช้เอกสารต่างๆ ที่เป็นหมู่คณะในการยื่นขอวีซ่า อาทิ ตั๋วเครื่องบิน ห้องพักที่ได้รับการยืนยันจากทางยุโรป ประกันการเดินทาง ฯลฯ ทำให้ต้องรอให้คณะครบ 10 คน จึงจะสามารถยื่นขอวีซ่าได้อย่างถูกต้อง
- หากในช่วงที่ผู้เดินทางเดินทาง คิวการยื่นขอวีซ่าเป็นหมู่คณะเต็ม LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ในการยื่นวีซ่าเดี่ยว สมาชิกคณะเดินทางจะต้องเดินทางมายื่นวีซ่าด้วยตนเองตามวันและเวลานัดหมายจากสถานทูตฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ของ LET’S RUN THE WORLD คอยดูแลและอำนวยความสะดวก
- สถานทูตฯเป็นผู้กำหนดเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นในการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวยุโรป LET’S RUN THE WORLD ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกำหนดเอกสารใดๆ กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้องตามความต้องการของสถานทูตฯ เพราะเอกสารและการเตรียมความพร้อมจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่า LET’S RUN THE WORLD เป็นเพียงตัวกลางอำนวยความสะดวกในการยื่นขอวีซ่าผู้เดินทางั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิจารณาวีซ่าโดยสิ้นเชิง
- LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมดกรณีผู้เดินทางยกเลิกการเดินทางและมีผลทำให้คณะเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ (10 คนขึ้นไป) เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อ LET’S RUN THE WORLD และผู้เดินทางอื่นที่เดินทางคณะเดียวกัน LET’S RUN THE WORLD ต้องทำไปชำระค่าเสียหายต่างๆ ที่เกิดจากการยกเลิกของผู้เดินทาง
- คณะผู้เดินทางจำนวน 10 คนขึ้นไปจึงออกเดินทาง ในกรณีผู้เดินทางไม่ถึง 15 คน LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์เลื่อนวันเดินทางหรือยกเลิกการเดินทาง และกรณีผู้ร่วมเดินทางในคณะไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่าได้ครบ 10 คน LET’S RUN THE WORLD ยินดีคืนค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดหลังจากหักค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าและค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริงแล้ว โดย LET’S RUN THE WORLD จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 10 วันก่อนการเดินทาง
- กรณีที่ต้องออกตั๋วภายใน เช่น ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถท่องเที่ยว ตั๋วรถไฟ กรุณาสอบถามเจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋ว เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟลท์บินหรือเวลาบินโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ไม่ครอบคลุมความรับผิดชอบในกรณีออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและไฟลท์บินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบินทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการออกตั๋วภายในไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะถือว่าผู้เดินทางยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
- กรณีใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มน้ำเงิน) เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวกับคณะเดินทาง หากถูกปฏิเสธในการเข้า/ออกประเทศใดๆ ก็ตาม LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าใช้จ่ายที่ชำระมาแล้วและไม่รับผิดชอบความเสียหายดังกล่าว
- เมื่อผู้เดินทางได้ชำระมัดจำหรือทั้งหมด LET’S RUN THE WORLD จะถือว่าผู้เดินทางรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆ ของ LET’S RUN THE WORLD ที่ได้ระบุไว้ในรายการทั้งหมด
- LET’S RUN THE WORLD มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมท่องเที่ยวในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้
- ร้านค้าในยุโรปส่วนใหญ่จะปิดทำการวันอาทิตย์ ต้องขออภัยหากรายการท่องเที่ยวตรงกับวันดังกล่าว
- เที่ยวบิน ราคา และรายการท่องเที่ยว สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
- หนังสือเดินทางต้องมีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน และ LET’S RUN THE WORLD รับเฉพาะผู้มีจุดประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น (หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน LET’S RUN THE WORLD ไม่รับผิดชอบหากอายุหนังสือเดินทางเหลือไม่ถึง 6 เดือนและไม่สามารถเดินทางได้)
- LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากความล่าช้าของสายการบิน สายการบินยกเลิกบิน เปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน เวลาบิน การประท้วง การนัดหยุดงาน การก่อจลาจล หรือกรณีผู้เดินทางถูกปฎิเสธการเข้า/ออกเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหรือเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งจากไทยและต่างประเทศ เพราะการพิจารณาดังกล่าวอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของ LET’S RUN THE WORLD รวมถึงเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ
- LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ไม่ครอบคลุมกรณีผู้เดินทางประสบเหตุสภาวะฉุกเฉินจากโรคประจำตัว ซึ่งไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุในรายการท่องเที่ยว
- การใช้บริการ/เข้าร่วมรายการท่องเที่ยวแต่ละรายการเป็นสิทธิ์เต็มของผู้เดินทาง LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ไม่ครอบคลุมความรับผิดชอบกรณีผู้เดินทางใช้บริการ/เข้าร่วมรายการของ LET’S RUN THE WORLD ไม่ครบ อาทิ ไม่เที่ยวบางรายการ ไม่ทานอาหารบางมื้อ เพราะค่าใช้จ่ายทุกอย่างทาง LET’S RUN THE WORLD ได้ชำระค่าใช้จ่ายให้ตัวแทนต่างประเทศแบบเหมาจ่ายขาดก่อนเดินทางเรียบร้อยแล้ว
- ทาง LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ไม่ครอบคลุมความรับผิดชอบกรณีเกิดสิ่งของสูญหายจากการโจรกรรม และ/หรือ เกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของผู้เดินทางเอง รวมถึงกรณีกระเป๋าสูญหายหรือชำรุดอันเกิดมาจากสายการบิน
- กรณีการตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่กรุงเทพฯและในต่างประเทศปฎิเสธมิให้เดินทางออกหรือเข้าประเทศที่ระบุไว้ในรายการเดินทาง LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าบริการในทุกกรณี
- ตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วราคาพิเศษ ไม่สามารถนำมาเลื่อนวัน คืนตั๋ว หรือเปลี่ยนชื่อได้หากผู้เดินทางไม่สะดวกเดินทางพร้อมคณะเดินทาง
- LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ไม่ครอบคลุมความรับผิดชอบกรณีรูปในหนังสือเดินทางไม่ตรงกับใบหน้าปัจจุบันแม้หนังสือเดินทางจะยังไม่หมดอายุก็ตาม เหตุดังกล่าวอาจทำให้ผู้เดินทางโดนปฎิเสธการเข้า/ออกประเทศได้ การกระทำที่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไป เช่น ศัลยกรรม ผ่าตัดขากรรไกรที่ทำให้ใบหน้าเปลี่ยน ผู้เดินทางจำเป็นต้องทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ก่อนทำการจองท่องเที่ยว
- กรณีมี “คดีความ” ที่ไม่อนุญาตให้ผู้เดินทางเดินทางออกนอกประเทศได้ โปรดทำการตรวจสอบก่อนการจองท่องเที่ยวว่าผู้เดินทางสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้หรือไม่ ถ้าไม่สามารถเดินทางได้ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของ LET’S RUN THE WORLD ทาง LET’S RUN THE WORLD จะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
- กรณี “หญิงตั้งครรภ์” ผู้เดินทางจะต้องมีใบรับรองแพทย์ระบุชัดเจนว่าสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ รวมถึงรายละเอียดอายุครรภ์ที่ชัดเจน สิ่งนี้อยู่เหนือการควบคุมของ LET’S RUN THE WORLD จึงขอสงวนสิทธิ์ไม่ครอบคลุมความรับผิดชอบกรณีเกิดความเสียหาย
* ก่อนตัดสินใจจองท่องเที่ยวควรอ่านเงื่อนไขการเดินทางอย่างถ่องแท้แล้วจึงมัดจำเพื่อประโยชน์ของท่านเอง ทาง LET’S RUN THE WORLD จะถือว่าท่านรับทราบและยอมรับ ในเงื่อนไขต่างๆ ของ LET’S RUN THE WORLD ที่ได้ระบุไว้ในรายการท่องเที่ยวทั้งหมด**
(ประเทศเดนมาร์กเพื่อขอประเทศไอซ์แลนด์) ยื่นวีซ่าเดี่ยวแสดงตนที่ VFS Global (จามจุรีสแควร์)
ในการยื่นวีซ่า ทางสถานทูตฯจะเก็บหนังสือเดินทางไว้จนกว่าจะได้การรับอนุมัติผลวีซ่า ไม่สามารถดึงหนังสือเดินทางออกมาใช้ได้ ระยะเวลาในการพิจารณาวีซ่าประมาณ 15 วันทำการ ไม่รวมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดของทางสถานทูตฯ หรือ อาจช้าหรือเร็วกว่ากำหนดขึ้นอยู่กับสถานทูตฯ
*** สถานทูตมีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในการยื่นเอกสารตลอดเวลา ***
1. หนังสือเดินทาง
หนังสือเดินทางประเทศไทย (Thailand Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้า อายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนนับจากวันเดินทางกลับ และหนังสือเดินทางจะต้องไม่ชำรุด (หนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบการยื่นวีซ่าด้วย)
*** สำหรับหนังสือเดินทาง ต้องใช้เป็นหนังสือเดินทางบุคคลทั่วไป (สีเลือดหมู) เท่านั้น ห้ามใช้หนังสือเดินทางราชการ (สีน้าเงิน) หนังสือเดินทางทูต (สีแดง) หรืออื่นๆ ที่นอกเหนือจากหนังสือเดินทางบุคคลทั่วไป โดยเด็ดขาด ***
*** ในกรณีที่ถือหนังสือเดินทางสัญชาติไทยแต่พำนักอยู่ต่างประเทศ ทำงานอยู่ต่างประเทศ หรือนักเรียนนักศึกษาที่ศึกษาอยู่ต่างประเทศ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ของ LET’S RUN THE WORLD ให้ทราบทันที เพราะการยื่นขอวีซ่าจะมีเงื่อนไขและข้อกำหนดที่สถานทูตฯ ต้องการเพิ่มเติม และบางสถานทูตฯอาจไม่สามารถยื่นขอวีซ่าในประเทศไทยได้ ข้อกำหนดนี้รวมไปถึงผู้เดินทางที่ถือหนังสือเดินทางต่างชาติด้วย ***
2. หลักฐานการเงิน
กรณีผู้เดินทางออกค่าใช้จ่ายเอง หลักฐานทางการเงินใช้ประเภทบัญชีออมทรัพย์ประกอบด้วย
- Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
- Bank Certificate หนังสือรับรองธนาคาร, ภาษาอังกฤษ และระบุค่าเงินเป็นยูโร (EURO)
หลักฐานทางการเงินทั้ง 2 ประเภท ผู้สมัครต้องขอกับธนาคาร (รบกวนลูกค้าทำรายการเดินบัญชีโดยการฝากหรือถอนก่อนแล้วค่อยปรับยอดเงินในบัญชีไม่เกิน 15 วัน) ก่อนวันยื่นวีซ่ารบกวนตรวจสอบ คำนำหน้า ชื่อและนามสกุล ต้องสะกดเป็นภาษาอังกฤษถูกต้องตรงตามกับหนังสือเดินทาง
สำคัญมาก!! : ห้ามโอนเงินเข้าบัญชีเป็นยอดใหญ่ในครั้งเดียวก่อนการยื่นวีซ่าเด็ดขาด
กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง โดยบุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่ายได้นั้น คือ
- พ่อ-แม่ สามารถรับรองค่าใช้จ่ายให้บุตรได้
- สามี-ภรรยาที่จดทะเบียนสมรส รับรองให้กันและกันได้
- เพื่อน ไม่สามารถรับรองค่าใช้จ่ายให้กันได้
กรณีที่มีผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ จะต้องมีเอกสารของผู้สนับสนุนดังนี้
- หนังสือรับรองค่าใช้จ่ายในการเดินทาง (Sponsor Letter) เป็นภาษาอังกฤษ พร้อมเอกสารแสดงความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส เป็นต้น
- หนังสือรับรองค่าใช้จ่าย (Bank Certificate) จากธนาคาร ระบุชื่อผู้สนับสนุนและชื่อผู้เดินทางชัดเจน (รบกวนตรวจสอบ ชื่อและนามสกุล ต้องสะกดเป็นภาษาอังกฤษถูกต้องตรงตามกับหนังสือเดินทาง)
- ฺBank Statement ย้อนหลัง 6 เดือนของบุคคลที่ออกค่าใช้จ่ายเป็นภาษาอังกฤษระบุชื่อผู้สนับสนุนและชื่อผู้เดินทางชัดเจน (รบกวนตรวจสอบ ชื่อและนามสกุล ต้องสะกดเป็นภาษาอังกฤษถูกต้องตรงตามกับหนังสือเดินทาง)
*** สถานทูตฯ ไม่รับพิจารณาบัญชีติดลบ บัญชีฝากประจำ บัญชีกระแสรายวัน บัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ พันธบัตร ตราสารหนี้ กองทุน สลากออมสิน ธ.อิสลาม ธ.อาคารสงเคราะห์ สหกรณ์ออมทรัพย์ต่างๆ ***
3. หลักฐานการทำงาน
- เจ้าของกิจการ ใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียน (DBD) ที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน อายุไม่เกิน 3 เดือน หรือ สำเนาใบทะเบียนการค้า (พค.0403)
- เจ้าของกิจการที่ไม่ได้จดทะเบียน ใช้จดหมายชี้แจงการทำงาน และแหล่งที่มาของรายได้ในแต่ละเดือน ว่ามาจากแหล่งไหน เป็นภาษาอังกฤษพร้อมเอกสารประกอบ เช่น รูปถ่ายร้าน สัญญาเช่าที่ โฉนดที่ดิน เป็นต้น
- พนักงานทั่วไป ใช้หนังสือรับรองการทำงานบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง เงินเดือน วันเริ่มทำงาน พร้อมระบุวันลาและประเทศที่เดินทางทางตามโปรแกรม (กรุณาขอเอกสารภาษาอังกฤษมีอายุ 1 เดือน ชื่อ-สกุล ต้องตรงตามหน้าหนังสือเดินทาง ใช้คำว่า “TO WHOM IT MAY CONCERN” แทนชื่อสถานทูตฯ ที่ยื่น)
- นักเรียนหรือนักศึกษา ใช้หนังสือรับรองการเรียนที่ออกโดยสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ (กรุณาขอเอกสารภาษาอังกฤษมีอายุ 1 เดือน ชื่อ-สกุล ต้องตรงตามหน้าหนังสือเดินทาง ใช้คำว่า “TO WHOM IT MAY CONCERN” แทนชื่อสถานทูตฯ ที่ยื่น)
4. เอกสารส่วนตัว
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สูติบัตร (กรณีเด็กอายุต่ากว่า 18 ปี)
- ทะเบียนสมรส/ทะเบียนหย่า (ถ้ามี)
- ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
5. กรณีเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศพร้อมบิดาหรือมารดา
- หากเด็กเดินทางไปกับบิดา จะต้องมีหนังสือยินยอมจากมารดาออกโดยอำเภอต้นสังกัด (โดยมารดาจะต้องคัดหนังสือยินยอมระบุให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับบิดา) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าหนังสือเดินทางมารดามาด้วย
- หากเด็กเดินทางกับมารดา จะต้องมีหนังสือยินยอมจากบิดาออกโดยอำเภอต้นสังกัด (โดยบิดาจะต้องคัดหนังสือยินยอมระบุให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดา) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าหนังสือเดินทางบิดามาด้วย
- หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อมกับบิดาและมารดา ทั้งบิดาและมารดาจะต้องคัดหนังสือระบุยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับผู้ดูแลและระบุความสัมพันกับเด็กอย่างชัดเจนจากอำเภอต้นสังกัด (1 ใบต่อเด็ก 1 คน เท่านั้น) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าหนังสือเดินทางบิดาและมารดา
- ในกรณีที่เดินทางพร้อมกันแต่บิดาหรือมารดามีวีซ่าอยู่แล้ว สามารถแสดงหน้าสำเนาหนังสือเดินทางของบิดาหรือมารดาพร้อมกับสำเนาหน้าวีซ่า Schengen ที่ยังมีอายุการใช้งานได้ แนบกับตั๋วเครื่องบินที่สามารถยืนยันได้ว่าไปพร้อมกันจึงจะสามารถยกเว้นหนังสือยินยอมได้
* สำหรับหนังสือยินยอมนั้น ให้ขอเอกสารเป็นภาษาไทย 1 ฉบับ และ ภาษาอังกฤษ 1 ฉบับ จากทางสำนักงานเขต หรืออำเภอ *
- กรณีเด็กที่บิดา-มารดาหย่าร้าง จะต้องแนบสำเนาใบหย่าและการสลักหลัง โดยมีรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้มีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว
- กรณีเด็กอายุต่ากว่า 18 ปี บิดา-มารดาลงชื่อรับรองในแบบฟอร์มสมัครวีซ่าพร้อมเดินทางมาสัมภาษณ์กับบุตรที่สถานทูตฯ
** ท่านไม่จำเป็นต้องเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง ให้ท่านเซ็นเฉพาะแบบฟอร์มใบคำร้องขอวีซ่าเท่านั้น **
เอกสารตัวจริงที่ต้องนำติดตัวมาในวันที่ต้องสแกนลายนิ้วมือ
- บัตรประชาชน /ทะเบียน / ทะเบียนสมรส /ใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล /สูติบัตร (กรณีอายุต่ากว่า 18 ปี)
- สมุดเงินฝากธนาคาร ให้ตรงกับบัญชีในการขอยื่นวีซ่า
- เวลาการอนุมัติผลวีซ่าจะอยู่ 15 วันทำการ ไม่รวมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดของสถานทูตฯ ในบางกรณีอาจใช้ระยะพิจารณานานกว่าที่กำหนด
- ระหว่างพิจารณาไม่สามารถขอนำหนังสือเดินทางออกมาก่อนได้
- ค่าแปลเอกสารทุกอย่างไม่รวมอยู่ในค่าดำเนินการ
- การพิจารณาผลวีซ่าขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทางสถานทูตฯ LET’S RUN THE WORLD ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิจารณาใดๆ ทั้งสิ้น LET’S RUN THE WORLD เป็นเพียงตัวแทนที่คอยอำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น ข้อมูลและเอกสารทุกอย่างต้องเป็นความจริง หากพบความบิดเบียนทาง LET’S RUN THE WORLD ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าใช้จ่าย ในกรณีที่วีซ่าไม่ผ่านทุกกรณี