May
ที่มาของทริปนี้ เราคุยกันว่าหางานอะไรวิ่งเดือน May กันดี สัปดาห์แรกของเดือนมี Prauge กับ Riga พวกเราคิดว่า Prauge ไปกันหลายรอบแล้ว ก็เลยมาจิ้มลงที่ Riga กัน แต่ไหนๆ มาแถวนี้ทั้งที หาอะไรวิ่ง back-to-back เล่นๆ ต่ออีกซักหน่อย มันจะได้คุ้มค่าตั๋วเครื่องบิน ก็ดันไปเจอ Helsinki City กับ Copenhagen เสาร์และอาทิตย์ถัดไป… ทริป 3 มาราธอน 3 ประเทศ จึงได้เกิดขึ้น
เอาเรื่องสภาพอากาศก่อนละกัน คือวันแรกที่มาถึง อุณหภูมิ 0 องศา ตกใจมาก คือไม่ทันเช็คให้รอบคอบ คิดว่ายุโรปเดือน May น่าจะเย็นๆ ชิวๆ… ที่ไหนได้ ยะเยือกเลย ปีนี้อากาศค่อนข้างจะเพี้ยนๆ มาวันนี้วันวิ่ง พยากรณ์ high 12/low 1 ซึ่งตอนเช้าที่เปิดประตูเดินออกไป ก็ 1 องศาจริงๆ แหละ ใส่เสื้อและกางเกง base layer ก่อน แล้วตามด้วยแขนสั้นขาสั้นที่อยากใส่
นัดเจอกันที่เต็นท์ฝากของ 7:45 น. ระบบฝากของง่ายๆ มีทั้งหมด 10 แถว เลข 0-9 ให้ดูเลขบิบตัวสุดท้ายของเราว่าเป็นเลขอะไร ก็ไปต่อแถวเลขนั้น มีจุดให้จอดจักรยาน เค้ารณรงค์ให้นักวิ่งนั่งรถบัส รถไฟ รถ tram หรือปั่นจักรยานมาจอด อย่าขับรถมา ซึ่งก็มีคนปั่นจักรยานมาจอดเต็มไปหมด ต่อคิวฝากของไม่ถึง 5 นาที แล้วก็เดินไปจุดสตาร์ท คนเยอะมากๆ เมื่อเทียบกับเมือง Riga ที่เป็นเมืองเล็กๆ วันนี้นักวิ่งทั้งหมด 25,000 คน ระยะ 42K และ 21K ปล่อยตัว 8:00 น. พร้อมกัน ประเมินจากสายตา รวมๆ น่าจะต้องมีมากกว่า 5,000 คนแน่นอน
ปล่อยตัวออกไปก็วิ่งข้ามสะพาน ข้ามแม่น้ำ Duagava ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักผ่ากลางเมือง Riga ผ่าน National Public Library ที่มีรูปร่างตึกแปลกตา วนอยู่ฝั่งนั้นประมาณ 5-6 km แล้วก็ข้ามกลับมา เส้นทางของ 42K คือวิ่งเหมือน 21K ซ้ำกัน 2 loops ระหว่างทางมีอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้ดูถ้าเป็นคนช่างสังเกต ตึกในเมือง Riga สะท้อนให้เห็นศิลปะที่สวยงาม รับรู้ได้ถึงความมั่งคั่งในสมัยก่อน เราสามารถแยกแยะออกได้ไม่ยาก ถ้าตึกไหนที่มีรายละเอียดประติมากรรมเยอะๆ นั่นคือตึกเก่า ตึกที่ดูแข็งๆ ทื่อๆ นั่นคือตึกในยุคที่ Latvia ตกไปอยู่ภายใต้อาณาจักร Soviet ระหว่างเส้นทางวิ่ง นอกจากจะเห็นธง Latvia แล้ว ยังเห็นธง Ukraine เต็มไปหมด ประเทศแถบนี้เค้ารักกันนะ Estonia, Latvia, Lithuania, Belarus, Ukraine, Poland มันหัวอกเดียวกัน หลุดออกมาจาก Russia เหมือนกัน ดังนั้นเค้าจะต่อต้าน Russia และไม่อยากกลับไปเป็นคอมมิวนิสต์อีกแล้ว
จุดบริการให้น้ำมีทุกประมาณ 4 km โต๊ะน้ำยาว เพียงพอกับจำนวนนักวิ่งที่เยอะ ต่อด้วยเกลือแร่ แล้วก็จบที่น้ำอีกรอบ ตอนวน loop ที่สองก็มีกล้วย ส้ม เจล เพิ่มเข้ามา… ช่วงนี้นักวิ่งบางตา ก็รวบโต๊ะให้สั้นลง แต่ก็ยังทำหน้าที่ได้ดี ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง ห้องน้ำระหว่างเส้นทางวิ่งมีน้อย ต่อคิวกันยาว
กองเชียร์ข้างทางของ Riga ขอนิยามว่า “น้อยแต่มาก” น้อยคือปริมาณน้อย ด้วยเมืองที่มีประชากรไม่ได้เยอะ แต่มากด้วยพลัง แทบจะ 90% ของคนที่ยืนเชียร์ข้างทาง หรือแม้แต่คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ข้ามถนน ทุกคนส่งเสียงโห่ร้อง ตบมือ ตะโกนภาษา Latvian ใส่เรา ซึ่งฟังไม่ออกหรอก แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเค้ามันบ่งบอกได้ และมันส่งต่อพลังงานดีๆ มาให้เรา
ตรง Freedom Monument มีคนยืนใส่ชุดประจำชาติ ยืนเต้นและคอยเชียร์นักวิ่งสองข้างทาง ชอบตรงนี้มากๆ ส่วนดนตรีระหว่างทางก็มีบ้างประปราย
ระหว่างทางวิ่ง จะมีป้ายสัญลักษณ์เป็นรูปกล้อง ให้เราเตรียมตัวว่าจะมีช่างภาพอยู่ข้างหน้า… แต่ช่างภาพเหมือนไปหามุมใหม่ๆ เอาเอง ไม่ได้อยู่แถวป้าย ก็มีบ้างที่เก็กไม่ทัน แต่งานนี้ข้อดีคือรูปฟรีแบบเหมาๆ ไปเลย
การปิดถนนวันนี้ไม่ 100% ในช่วงหลังๆ ที่นักวิ่งเริ่มบางตา ก็จะมีตำรวจยืนคุมอยู่ทุกสี่แยก คอยระบายให้รถวิ่งข้ามสี่แยกไปในช่วงที่นักวิ่งขาดตอน แต่ทุกอย่างคือปลอดภัยมากๆ คนขับรถทุกคนมีมารยาทและเข้าใจว่านี่คืองานวิ่งมาราธอน นักวิ่งก็ไม่ต้องหยุด วิ่งตามสปีดตัวเองปกติ ตำรวจก็คอยมองและกะจังหวะที่จะกั้นรถให้ก่อนที่เราจะมาถึงบริเวณแยก
เส้นชัยวันนี้มาจบที่บริเวณริมแม่น้ำหน้า Riga Cathedral รับเหรียญ และน้ำ กล้วย energy bar แล้วก็แยกย้าย เหรียญเป็นดีไซน์เดียวกันหมดทุกระยะ แต่ขนาดไม่เท่ากัน ลดหลั่นไปตามระยะ สายคล้องคอแต่ละระยะก็เป็นสีเดียวกับสีบิบ 42K สีแดง, 21K สีเขียว, 10K สีฟ้า, 5K สีส้ม
สิ่งที่ชอบมากๆ สำหรับเรซนี้คือการจัดการขยะ ที่จุดให้น้ำ จะมีถังขยะแยกประเภท พลาสติก เปลือกผลไม้ (ขยะ bio น่าจะเอาไปทำปุ๋ยได้) และ ขยะทั่วไป ส่วนที่บริเวณเส้นชัย ก็มีจุดให้เอาบิบและถุง goodie bag มาคืน เพื่อทำการ recycle ถ้าใครเอามาคืน ก็จะได้ต้นไม้ไปคนละ 1 ต้น เอาไปปลูกเพิ่มสีเขียวให้กับโลกใบนี้
สรุปวันนี้ชอบมากๆ เลยนะ เป็นงานมาราธอนของเมืองเล็ก ที่จัดได้ดีมากๆ ทุกดีเทลได้ผ่านกระบวนการคิดมาอย่างดีแล้ว ถือเป็นการเตรียมพร้อมของเมือง Riga ที่จะเป็นเจ้าภาพ World Athletics Road Running Championship ที่จะจัดขึ้นปลายเดือนกันยายนนี้ ดูแล้วก็มั่นใจได้ว่า ทุกอย่างน่าจะออกมาอย่างดี ปีนี้เป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีของ Riga Marathon ด้วย ถือเป็นงานน้องใหม่ในยุโรปที่ทำออกมาได้ดีมากๆ เลยทีเดียว น่าจะดึงนักท่องเที่ยวในหมวด sport tourism เพิ่มขึ้นในอนาคตได้อีกเยอะ ใครที่สนใจอยากมาลอง ก็แนะนำเลย ประเทศในยุโรปตะวันออก มีอะไรดีๆ เยอะ และราคาไม่แพง ลองไปดูได้ที่ https://rimirigamarathon.com/ เผื่อถ้าใครอยากจะมาปีหน้านะจ๊ะ
